รูปพระสีวลี |
หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ |
ภาพหลวงปู่ทวด |
รู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นคนห้อย “พระเครื่อง” บางคนก็อาจจะมองเป็นเรื่องงมงาย
ในฐานที่ผู้เขียนเป็นคนที่ศึกษาเรื่องของธรรมะมาพอสมควร...ก็พอจะสรุป
ให้ฟังพอเข้าใจ......ถ้าบางคนรู้สึกไม่ดีต่อคนที่ใส่พระเครื่อง....ให้ลองมองอีกด้านหนึ่ง...คนที่ใส่พระเครื่อง
ก็คือคนที่บูชาของที่สูงที่สุด
นั่นก็คือ ตัวแทนของพระพุทธเจ้า
พระเครื่องเปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้า....เพราะฉะนั้น เขาเอาของที่สูงที่สุดมาไว้กับตนเอง...เพื่อให้ตนเองพ้นเคราะห์ หรือสิ่งที่ไม่ดีไม่อาจเข้ามาใกล้ได้
หากคนที่ห้อยพระเครื่องและรำลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ....กับคนที่ไม่ห้อยพระเครื่อง
และก็ไม่ค่อยนึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า
เขาทั้งสองคนถ้าเกิดตายพร้อมกัน หรือ หากบุคคลที่ห้อยพระเครื่องมีดวงถึงแก่ความตายเวลานั้น
หรือ
ประสพอุบัติเหตุตายพร้อมกัน
เขา สองคนนี้จะมีที่ไปคือ คนห้อยพระไปสวรรค์ทันที
ส่วนคนไม่ห้อยพระไปตามแรงกรรมของตนเองที่ทำไว้ หากทำชั่วไว้มากก็ไปนรกทันที หากทำดีบ้าง ทำชั่วบ้างผสมกัน ก็ต้องรอไปต่อคิวเข้าแถว รอท่านยมบาลเรียก
ไปสอบสวนการทำดี ทำความชั่ว
คนที่ไม่ห้อยพระเครื่อง เพราะไม่ชอบหรือ
มีเหตุอะไรก็ตามแต่....เมื่อคุณเห็นคนห้อยพระเครื่อง....จงใช้เหตุการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง นั่นคือ
เป็นเครื่องเตือนใจ หรือ
เป็นเครื่องเตือนสติ ให้เราคอยระลึกนึกถึงความดีของ พระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ อยู่เสมอ
....ใช้เป็นกรรมฐานหมวดหนึ่ง
นั่นคือ พุทธานุสติกรรมฐาน....กรรมฐานกองนี้...ก็คือระลึกนึกถึงความดีของ พระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์
เวลาที่เราเผลอคิดเรื่องอกุศลต่างๆ
จึงใช้เหตุการณ์รอบด้านเป็นเรื่องสะกิจตัวเราให้รู้สึกตื่นขึ้นมาจากความคิดที่มันเลื่อนลอยหาจุดหมายไม่ได้....หากเราใช้พระเครื่องเป็นเครื่องคอยสะกิจเรา ให้เราไม่เผลอคิดไปในทางชั่วก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกับตนเองเมื่อถึงแก่ความตามจะได้ไปสวรรค์...ทันที...จงนำธรรมะเข้ามาสู่ใจเราแต่เนิ่นก่อนที่เราจะเวียนตายเวียนเกิดไม่รู้จักจบจักสิ้น.....
โชคดีที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์จงใช้เวลาอันดีนี้เพื่อสร้างสมความดีไปพร้อมกับการงานของเรา อย่าใช้เวลาอันมีค่าให้ไร้ประโยชน์ไปอีกชาติหนึ่ง....โดยไร้เปล่าประโยชน์.....เมื่อเห็นคนใส่พระเครื่องจงเปลี่ยนความคิดเป็งแง่บวก....เพื่อตัวเราเอง.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น